ครม.ถวายพระราชสมัญญานาม "พระผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน"

ศธ.เตรียมเสนอ ครม.ถวายพระราชสมัญญานาม "พระผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน"

ชี้ต้องปฏิรูปรมต.ก่อนปฏิรูปการศึกษา

Daily News Online หน้าการศึกษา ชี้ต้องปฏิรูปรมต.ก่อนปฏิรูปการศึกษา

สมศ.เดินหน้าประเมินรอบ 3 ปี 2554-2558 เน้นลดภาระสถานศึกษา

สมศ.เดินหน้าประเมินรอบ 3 ปี 2554-2558 เน้นลดภาระสถานศึกษา

แนวทางการรับนักเรียน ปี 2554

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา "การรับนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๕๔" ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหารจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑-๒ ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา ผู้บริหารโรงเรียนเอกชน คณะกรรมการสถานศึกษาและเครือข่ายผู้ปกครองในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงกรุงเทพมหานคร จำนวนกว่า ๕๐๐ คน ร่วมการประชุมสัมมนา

รมว.ศธ.กล่าวว่า ตามที่ได้ให้ความเห็นชอบแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา ๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ จึงเป็นที่มาของการประชุมสัมมนาในวันนี้ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนในการเสนอแนะการดำเนินงานรับนักเรียน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกำหนดทิศทางการวางแผนดำเนินงานร่วมกัน เพื่อก้าวสู่จุดหมายเดียวกัน คือ การยกระดับคุณภาพผู้เรียนและโรงเรียนให้มีคุณภาพใกล้เคียงกันต่อไป

รมว.ศธ.ได้มอบนโยบายเกี่ยวกับการรับนักเรียนในปีการศึกษา ๒๕๕๔ ไว้ ๓ ประการ คือ ๑) เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพื่อให้ปี ๒๕๕๔ เป็นปีแห่งคุณภาพผู้เรียน และเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนให้ดีขึ้นกว่าในช่วง ๒๐ ปีที่ผ่านมา ๒) คุณภาพสถานศึกษาจะต้องใกล้เคียงกัน ๓) นักเรียนทุกคนต้องได้รับสิทธิ์ในโครงการเรียนฟรี เรียนดี ๑๕ ปีอย่างมีคุณภาพ และนักเรียนสามารถเลือกเรียนตามความถนัด มิใช่เรียนตามความต้องการของผู้ปกครอง

รมว.ศธ.มอบแนวทางการรับนักเรียนของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ปีการศึกษา ๒๕๕๔ ดังนี้

• รับนักเรียน ห้องเรียนละไม่เกิน ๕๐ คน
• รับนักเรียนเพียงรอบเดียว
• มีแผนการรับนักเรียนที่ชัดเจน โดยมีข้อมูลการรับนักเรียนย้อนหลัง ๓ ปี ซึ่งระบุจำนวนเด็กในพื้นที่บริการ เด็กจบชั้น ป.๖ ในพื้นที่บริการ และสามารถรับเด็กจากนอกเขตพื้นที่บริการเข้าเรียนได้จำนวนเท่าไร โดยโรงเรียนจัดทำข้อมูลตัวเลขดังกล่าวร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อให้ได้แผนการรับนักเรียนที่มีความยืดหยุ่น และเมื่อนำแผนไปสู่การปฏิบัติ ก็จะต้องปฏิบัติตามจำนวนที่ระบุไว้ในแผนเท่านั้น
• นักเรียนจะต้องระบุโรงเรียนที่ประสงค์จะเรียนในใบสมัคร โดยเลือกโรงเรียนที่ต้องการเรียนมากที่สุดเป็นลำดับที่ ๑ และให้เลือกโรงเรียนคู่พัฒนาของโรงเรียนลำดับที่ ๑ ในลำดับที่ ๒-๔ โดยจะต้องระบุในใบสมัครด้วยว่า ถ้าไม่ได้เรียนในโรงเรียน ๔ ลำดับข้างต้น นักเรียนต้องการจะเรียนต่อในโรงเรียนเอกชนและสถาบันอาชีวศึกษาใด เพื่อ ศธ.จะได้จัดทำแผนรองรับนักเรียนแบบบูรณาการร่วมกัน ๓ หน่วยงาน คือ สพฐ. สช. และ สอศ.
• มีคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ การรับนักเรียน ปีการศึกษา ๒๕๕๔  ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มาจากผู้ที่มีความรับผิดชอบโดยตรง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคตรวจสอบ โดยจะขอความร่วมมือจากนายกสมาคมครูและผู้ปกครองในสถานศึกษาหรือโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ไม่ให้เกี่ยวข้องกับการรับนักเรียน ในปีการศึกษา ๒๕๕๔

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาบายศรี วิถีพุทธ น้ำตาตก จัดโครงการบวช “อุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน”

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาบายศรี วิถีพุทธ น้ำตาตก จัดโครงการบวช “อุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน” ฟรี ล้มเหลว ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง ไม่สนับสนุนให้นักเรียนหญิงกว่า 300 คนเข้าร่วมกิจกรรม หวั่นถูกล้างสมอง งมงาย โลภในผลบุญ
      
       วันนี้ (17 ธ.ค.) ดร.เกศ รา เผือกนาง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาบายศรี หมู่ 5 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ถึง 29 ธันวาคม 2553 โรงเรียนได้จัดกิจกรรม “บวชอุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน 1 ล้านคน” ให้แก่นักเรียนหญิง ตลอดจนประชาชน ผู้ปกครองนักเรียน 350 คน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
      
       แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายให้มาพร้อมกันที่โรงเรียนบ้านเขาบายศรี ในวันที่ 16 ธันวาคม เวลาตั้งแต่ 09.00 น.ปรากฏไม่มีใครมาร่วมในพิธี แม้แต่นักเรียนหญิงที่ผู้ปกครองเห็นดีเห็นชอบกับการดำเนินโครงการอนุญาตให้มาร่วมปฏิบัติธรรมไว้เรียบร้อยแล้วก็ยังไม่มีใครมาร่วมงาน
      
       ทั้งนี้ เป็นเรื่องน่าแปลกอย่างมาก จนได้ทราบข่าวจากผู้ปกครองนักเรียนว่าสาเหตุที่นักเรียนหญิง ประชาชนทั่วไปไม่มาปฏิบัติธรรม เพราะว่าภายในชุมชนด้วยกันตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองนักเรียนบางส่วนยังไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการบวช อุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน คิดว่าเป็นเรื่องของความงมงาย คลั่งลัทธิ นำตัวอย่างที่ไม่ดีมาเป็นบรรทัดฐานและขีดจำกัดในเรื่องของการสร้างคุณงาม ความดี ทั้งที่เป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับศาสนา หรือลัทธิใดๆ ทั้งสิ้น
      
       ดร.เกศรา เผือกนาง กล่าวอีกว่า กระแสการถูกโจมตีในหมู่ครู และแพร่ขยายไปสู่ชุมชน วัด ในที่สุดก็ต้องถึงสื่อมวลชนที่ต้องเข้ามาหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย ตั้งแต่เรื่องการไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท และทำด็อกเตอร์จนสำเร็จก็เพื่อการนำความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์มาเพื่อสร้่างคุณภาพและประสิทธิภาพการศึกษาของเด็ก ตลอดจนการพัฒนาครู เพื่อให้การศึกษาเด็กในท้องถิ่น ไม่ได้ศึกษาเพื่อนำไปทำประโยชน์อื่นใด แต่ก็ถูกนินทาว่าร้ายมาโดยตลอด จนต้องให้เวลากับตัวเองเข้าไปสู่ทางธรรมะ พาครู นักเรียนให้เข้าใจ เข้าถึง และปฏิบัติ ในการร่วมกันรักษา จรรโลง พระศาสนาที่กำลังเปราะบางให้เกิดความยั่งยืนให้สอดคล้องกับการที่โรงเรียนบ้านเขาบายศรีเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ
      
       ปฏิบัติตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เขตการศึกษา และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งไม่ได้ผิดเพี้ยน หรือผิดจรรยาบรรณ ศีลธรรมแต่อย่างใด จนในที่สุดก็ต้องเสียใจ ทุกข์ใจอย่างมาก เพราะถูกครูบางคนให้ข้อมูลเชิงลบกับผู้นำชุมชนที่มีความขัดแย้งทางความคิด และการกระทำมาก่อนหน้านี้แล้ว จนได้รับการปฏิเสธ ไม่ให้บุตร หลาน เข้าร่วมโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน จนทำให้โครงการต้องล้มเหลว ไปอย่างสิ้นเชิง
      
       ด้าน นายสุเมธี ศิริพันธ์ กำนันตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ให้การสนับสนุนโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน มิได้หมายความว่าขัดขวาง ไม่ร่วมสังฆกรรม หรือไม่สนับสนุนเรื่องของกิจทางศาสนากับทางโรงเรียน แต่ว่าผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน และผู้เกี่ยวข้องทางการศึกษาไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนว่าทางโรงเรียนจัดโครงการบวชให้กับนักเรียนหญิง
      
       แม้แต่ทางเจ้าอาวาสวัดเขาบายศรีก็ไม่รู้เรื่อง ผู้อำนวยการไม่เคยมีการประชุม หรือหารือกับชุมชนเพื่อร่วมกันจัดโครงการดีๆ ให้แก่นักเรียน ประชาชน และชุมชน ทำให้ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย และที่สำคัญได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดอื่นนอกเขตมาดำเนินการด้านพิธีสงฆ์ โดยไม่ได้ให้เกียรติเจ้าอาวาส และวัดที่อุปถัมภ์โรงเรียน คู่กับชุมชนมโดยตลอด ส่งผลให้ผู้นำชุมชน ประชาชน ไม่เข้าใจ จึงไม่สนับสนุนให้นักเรียนเข้าร่วมโครงการนี้ และเกรงว่านักเรียนหญิงที่เข้าไปปฏิบัติธรรมจะเข้าใจในสิ่งผิดๆ
      
       เช่น การใช้เงินทำบุญมากๆ จะได้บุญมากตามมา ซึ่งเคยมีตัวอย่างมาแล้วมากมายในเรื่องนี้ ขายบ้าน ที่ดิน ทรัพย์สินไปทำบุญจนหมดตัว ต้องเลิกรา หย่าล้างกับครอบครัว เพราะไม่เข้าใจในเรื่องของการทำบุญ อย่างแท้จริง
      
       พร้อมกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีกระแสมากมายในเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผู้อำนวยการไม่สนใจ ไม่สนับสนุนกิจการของนักเรียน มัวแต่ไปเรียนเพิ่มเติม ไม่พานักเรียนเข้าวัด ไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนในท้องถิ่น และที่ขัดแย้งความรู้สึกประชาชนมากที่สุดก็คือการไปถือศีล ปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาว พานักเรียนไปปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ และ ครั้งนี้ก็ไม่ได้มีการปรึกษาหารือ หรือขอความเห็นชอบร่วมกับท้องถิ่นว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่กลับดำเนินการด้วยตัวเองทั้งหมด ทำให้ประชาชนไม่ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้ ไม่ได้มีการขัดขวางการปฏิบัติกิจทางศาสนาแต่อย่างใด
      
       น.ส.อำไพพรรณ โพธิ์กระสังข์ ผู้ประสานงานโครงการฯ กล่าวว่า ตนเองต้องการให้เยาวชนในพื้นที่ตำบลพลูตาหลวง และบริเวณใกล้เคียง เป็นเยาวชนที่ดีมีคุณค่า รู้จักความกตัญญูต่อบุพการี ครู อาจารย์ และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไปในอนาคต จึงขอวอนให้ผู้ปกครองได้เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามาศึกษาธรรมโดยไม่เสียค่า ใช้จ่ายและไม่มีอะไรแอบแฝงทั้งสิ้น
      
       พร้อมยืนยันว่าหลังจากที่เยาวชนได้เข้ารับการฝึกอบรมในโครงการฯ แล้ว จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของบุตรหลานไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน จึงขอเชิญชวนร่วมโครงการ “บวชอุบาสิกาแก้ว หน่ออ่อน 1 ล้านคน” ยอดหญิงผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก ระหว่าง 17-29 ธ.ค.53 ที่จัดขึ้น ณ ร.ร.บ้านเขาบายศรี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-3540-5572 ยินดีที่จะให้ข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดของโครงการให้รับทราบโดยทั่วกัน

ตกเบิก 7 พันล้านค่าวิทยฐานะครู

ศธ.เผยมีครู2หมื่นคนตั้งตารอ 'วรากรณ์'แนะเกษียณครู65ปี
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการสัมมนาวิชาการโครงการพัฒนาระบบการนิเทศ การศึกษาแนวใหม่ กลไกการปฏิรูปการศึกษา จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระ 1 ในสมัยประชุมที่จะถึงนี้ ซึ่งตนจะนั่งเป็นประธานกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2554 ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวน่าจะผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ในส่วนของศึกษานิเทศก์ตนได้มอบให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ระบบของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปพิจารณากระบวนการประเมินวิทยฐานะของศึกษานิเทศก์ โดยจะเน้นคุณภาพการศึกษาที่เกิดขึ้นกับเด็กเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการแก้กฎกระทรวงเพื่อเปิดโอกาสให้ศึกษานิเทศก์สามารถเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ด้วย รวมทั้งจะสนับสนุนให้ศึกษานิเทศก์ทำงานเป็นเครือข่ายมากยิ่งขึ้น โดยกำลังดูว่าจะสามารถจัดตั้งสำนักศึกษานิเทศก์ได้หรือไม่
    นายชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้เสนอให้ครม.ทราบถึงปัญหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผ่านการประเมินวิทยฐานะแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินวิทยฐานะมา 3 ปี ซึ่งขณะนี้มีข้าราชการครูไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ที่ยังไม่ได้รับเงินรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งบางคนก็ร้องผ่านตนมาว่าจะเกษียณอยู่แล้ว โดย ครม. ได้อนุมัติให้ ศธ. ใช้งบฯ จากบัญชี 2 มาเบิกจ่ายย้อนหลังให้ ส่วนการเพิ่มค่าครองชีพให้แก่ครูโรงเรียนเอกชนซึ่ง ครม. ได้อนุมัติไว้นานแล้วนั้น ตนก็สั่งการให้ดำเนินการโดยเร็วเช่นกัน
    ด้าน รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดี ม.ธุรกิจบัณฑิตย์  กล่าวว่า ครูและศึกษานิเทศก์มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบการศึกษาของไทย จึงไม่ควรเกษียณเมื่ออายุครบ 60 ปี ตนจึงอยากให้ข้าราชการครูและศึกษานิเทศก์ที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงสามารถขยายไปถึงอายุ 65 ปีได้.
 เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 22 ธันวาคม 2553 เวลา 10:25 น

ครม.เห็นชอบถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน”

ก.ศึกษาธิการ 21 ธ.ค. - ครม.เห็นชอบตามที่ ก.ศึกษาธิการ ขอความเห็นชอบให้ถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน”นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่ ศธ.ขอความเห็นชอบให้ถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ด้วยฉันทานุมัติจากผู้บริหาร ข้าราชการ ครู บุคลากรและนิสิตนักศึกษา ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทั้งปวง
ทั้งนี้ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา ส่งผลให้การศึกษาชาติในรัชสมัยของพระองค์พัฒนาก้าวหน้า ทั้งในระบบและพัฒนาตามอัธยาศัย ทรงตั้งโรงเรียนจิตรลดา สองสี่ เก้า แปด โรงเรียนตามพระราชดำริ และพระบรมราชูปถัมภ์ หนึ่งร้อยสี่ โรงเรียนจิตรลดา กลุ่มโรงเรียนราชวินิต กลุ่มโรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจน โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยฯ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ พระองค์ส่งเสริมการศึกษานอกระบบผ่านโรงเรียนพระดาบส ทรงทดลองวิจัยการศึกษา ตั้งทุนการศึกษา กองทุนต่าง ๆ ทุนพระราชทานแก่นักเรียน ชาวเขา ทั้งนี้ ศธ.จะจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติในวันที่ 14 มกราคม 2554 ประกาศคุณภาพการศึกษา และจัดนิทรรศการพระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน ให้ประชาชนยกย่องเชิดชูอาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงต่อไป. - สำนักข่าวไทย