จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 10 / 2554
สวัสดีครับพี่น้องชาวแผนและผู้สนใจทุกท่าน
วันนี้เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่แล้ว หากเหตุการณ์ปกติ เราก็จะได้ใช้งบประมาณปี 2555 ตั้งแต่วันนี้เลย แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ ดังนั้นจึงทำให้งบประมาณปี 2555 ล่าออกไปจากกำหนดเดิมประมาณ 4 เดือน หากพิจารณาตามปฏิทินงบประมาณแล้ว งบประมาณจะเรียบร้อยในราวปลายเดือนมกราคม 2555 อย่างไรก็ตาม เราจะได้ใช้งบประมาณส่วนหนึ่งก่อนแต่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของปี 2554 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย คำที่สำนักงบประมาณใช้ก็คือ “ใช้งบประมาณปี 2554 ไปพลางก่อน” หลายท่านเข้าใจผิดกับคำดังกล่าว ซึ่งเข้าใจว่าใช้งบปี 2554 ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว จริง ๆ แล้วเป็นการใช้งบประมาณปี 2555 แต่ภายใต้กรอบวงเงินปี 2554 โดยได้มาไม่เกินครึ่งหนึ่งของปี 2554
จดหมายฉบับที่ 9/2554 ผมไม่ได้ตอบกระทู้เลย มีข้อแก้ตัวหลายประการครับ แต่เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ บางสิ่งบางอย่างยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องวิทยฐานะและการจ้างอัตราจ้าง มาชัดเจนเอาตอนปลายเดือนกันยายน 2554 จดหมายฉบับนี้คงคุยเรื่องวิทยฐานะ อัตราจ้าง งบประมาณปลายปี 54 และทิศทางการจัดการศึกษาปี 2555 เริ่มเลยนะครับ
เดิมคาดว่า สิ้นตุลาคม 2554 นี้ ผู้ที่ได้เลื่อนวิทยฐานะจะได้รับเงินค่าตอบแทนวิทยฐานะใหม่ไปเลย แล้วไปรอตกเบิกเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เหตุการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วครับ กล่าวคือ ทั้งค่าตอบแทนวิทยฐานะใหม่ และตกเบิกวิทยฐานะต้องไปรับพร้อมกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 และผู้ที่ได้รับตกเบิกรอบนี้เดิมขอไปถึงผู้ที่ได้รับคำสั่งถึงกุมภาพันธ์ 2554 แต่ขณะนี้ลดเป้าหมายลงไปอีก จะได้ตกเบิกสำหรับสำหรับผู้ที่ได้รับคำสั่งตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2552 – 30 กันยายน 2553 ผมเห็นใจทุกท่านครับที่รอคอยเงินวิทยฐานะ แต่เรื่องนี้เหนือการควบคุมจริง ๆ ครับ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สนผ.ได้รวบรวมข้อมูลผู้ที่ผ่านวิทยฐานะทั้งหมดถึงปัจจุบันเพื่อขออนุมัติใช้งบกลางจากคณะรัฐมนตรี คุณครูจะได้ไม่ต้องรอตกเบิกอีกต่อไปครับ
คงหายข้องใจแล้วนะครับ หลังจากที่มีหนังสือแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทราบ เรื่อง การจ้างอัตราจ้างตำแหน่งต่าง ๆ สรุปว่าจ้างต่อทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป ถึงแม้ว่ามีบางตำแหน่งที่ คณะรัฐมนตรี ชุดเดิมตัดออกไป แต่ สพฐ.ก็พยายามขอตั้งงบประมาณเพิ่มเติมกลับมาอีก สำหรับเรื่องตำแหน่งถาวรของน้อง ๆ ธุรการ ขณะนี้
ก.ค.ศ. ยังไม่อนุมัติ แต่ สพฐ.ก็พยายามต่อสูให้ต่อไปครับ
ช่วงปลายปีงบประมาณ 2554 มีการจัดสรรงบประมาณลงสู่เขตพื้นที่ และโรงเรียน 3 รายการใหญ่ ๆ คือ งบแปรญัตติที่เป็นงบลงทุน งบปกติที่เป็นงบลงทุน (สิ่งก่อสร้าง ,ครุภัณฑ์) และงบดำเนินงาน (สื่อ อุปกรณ์ โต๊ะ – เก้าอี้) งบประมาณดังกล่าวหากส่วนใดดำเนินการได้ทัน ก็คงเรียบร้อยไปแล้ว ส่วนที่ดำเนินการไม่ทัน สำนักการคลังและสินทรัพย์ ก็ทำเรื่องกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีให้แล้ว (ถ้า สพท.แจ้งเรื่องให้ สคส. ขอกันเงิน) การกันเงินจะกันสองแบบ คือ กันเงินแบบมีหนี้ผูกพัน (ลงนามในสัญญาซื้อ – จ้าง แล้ว แต่งวดงานต้องทำเลย 30 กันยายน 54) และกันเงินแบบไม่มีหนี้ผูกพัน (ยังหาผู้ขาย – รับจ้างไม่ได้) ด้วยความที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาที่กรมบัญชีกลางจะปิดระบบการกันเงินเหลื่อมปี ดังนั้นจึงเกิดความผิดพลาดเกี่ยวกับชื่อโรงเรียน หรือกำหนดชื่อโรงเรียนไว้ผิดเขตพื้นที่บ้างเหมือนกัน เรื่องนี้พี่น้องชาวแผนไม่ต้องกังวลครับ สพฐ.ได้ปรับแก้ไขให้ถูกต้องแล้วครับ และทำเรื่องแจ้งเขตพื้นที่แล้ว รายการที่กันเงินแบบไม่มีหนี้ ขณะนี้คงทำได้เพียงแค่เตรียมการหาผู้ขาย – ผู้รับจ้างเท่านั้น จะลงนามในสัญญาซื้อ – จ้างได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบโอนเงินจากสำนักการคลังและสินทรัพย์ ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วก็คงปลายเดือนตุลาคม อย่างช้าพฤศจิกายน 2554
เพื่อให้เกิดภาวะรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับทิศทางการจัดการศึกษา ปี 2555 ซึ่งล่าสุดได้มีการประชุม องค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ กรอบแนวคิด เป้าหมาย ประเด็นยุทธศาสตร์ กลไลการขับเคลื่อน ซึ่งมีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้
ภายใน ปี 2555 กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นองค์กรหลักที่ทรงประสิทธิภาพในการผลิตและพัฒนาทรัพยากรบุคลากรของชาติ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดี สร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมให้กับประเทศ ด้วยฐานความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพของประเทศ
สามารถสร้างรายได้ที่มั่งคั่งและมั่นคง เพื่อเป็นบุคลากรที่มีวินัย เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม
1. คำนึงถึงศักยภาพและบริบทรอบๆ ตัวผู้เรียน
2. พัฒนาและยกระดับองค์ความรู้และกระบวนการเรียนการสอนให้ทัดเทียมอารยะประเทศ ด้วยการบริหารจัดการ
และเทคโนโลยีสมัยใหม่
3. มุ่งสู่เป้าหมายของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับศักยภาพในการทำงานให้กับบุคลากร
คนไทย ให้แข่งขันได้ในระดับสากล
2 กรอบระยะเวลาของแผน หมายถึง ช่วงเวลาในการดำเนินงานตามแผน ยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา ได้แก่
5 ภูมิภาคหลักของโลก หมายถึง ทวียุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา เพื่อให้ คนไทย “รู้ศักยภาพเขา”
5 ศักยภาพหลักของพื้นที่ หมายถึง ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของพื้นที่ตามหลักภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ และศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นที่เพื่อให้คนไทย “รู้ศักยภาพเรา”
5 กลุ่มอาชีพใหม่ หมายถึง กลุ่มหลักสูตรใหม่ด้าน เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชย กรรม ความคิดสร้างสรรค์ และด้านอำนวยการ บริหารจัดการและการบริการ เพื่อให้คนไทยสามารถปรับตัว “เท่าทัน และแข่งขันได้”
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การปรับตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน/ประชาคมโลก
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาสถานศึกษาและองค์ความรู้
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาครูทั้งระบบ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาศักยภาพผู้เรียน
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 6 การวิจัยและถ่ายทอดองค์ความรู้
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 7 การเพิ่มโอกาสทางการศึกษา
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 8 การส่งเสริมการมีงานทำ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 9 การบริหารจัดการกลยุทธ์ของกระทรวงศึกษาธิการ
1. โครงการกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตครู
2. โครงการกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
3. โครงการกองทุนตั้งตัวได้
4. โครงการครูคลังสมอง
5. โครงการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ
6. โครงการวิจัยศักยภาพพื้นที่
7. โครงการปฏิรูปเงินเดือนและค่าตอบแทน
8. โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาตั้งแต่แรกเกิดจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
9. โครงการพัฒนาผู้นำตามธรรมชาติ
10.โครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
11.โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน
12.โครงการเทียบระดับการศึกษา
13.โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต
14.โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน
15.โครงการถ่ายทอดผลงานวิจัย
16.โครงการมัธยมศึกษาเชิงปฏิบัติการ
17.โครงการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมโลก
18.โครงการพัฒนาระบบบริหารวิสาหกิจเพื่อการศึกษา
19.โครงการพัฒนาการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
20.โครงการโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ศึกษาธิการร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ต.ค. – พ.ย. 54)
คณะกรรมการติดตามและประเมินผล ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน เลขาธิการ
สภาการศึกษาเป็นเลขานุการ